BOROSIL เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องแก้ววัดปริมาตรสำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการ รายใหญ่ที่สุด และมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในประเทศอินเดีย โดยถือครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 60% มาเป็นเวลานานมากกว่าสิบปีติดต่อกัน
BOROSIL เป็นแบรนด์เครื่องแก้วที่นักวิจัยในประเทศอินเดียนึกถึงเป็นอันดับแรก เนื่องจากคุณภาพความทนทานของเครื่องแก้ว การออกแบบที่สะดวกต่อการใช้งาน และความเที่ยงตรงและแม่นยำในการวัด
BOROSIL ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1962 โดยการร่วมทุนกับบริษัท Corning Glass Works, USA ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องแก้ว ยี่ห้อ Pyrex เพื่อทำการผลิตเครื่องแก้ว Borosilicate ที่มีอัตราการขยายตัวต่ำมาก ซึ่งต่อมาในปี ค.ศ. 1988 บริษัท Corning Glass Works ได้ขายหุ้นของตนออกไปให้กับผู้ถือหุ้นชาวอินเดียซึ่งต่อมาได้พัฒนากลายมาเป็นบริษัท BOROSIL Glass Works Ltd. ในปัจจุบัน
BOROSIL เป็นผู้นำตลาดของประเทศอินเดียในกลุ่มสินค้าเครื่องแก้วสำหรับห้องปฏิบัติการและเครื่องครัวที่ใช้กับเตาไมโครเวฟ ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท BOROSIL ประกอบด้วย 2 บริษัทที่เป็นอิสระจากกันซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศอินเดียทั้งคู่ คือ Borosil Glass Works Ltd. และ Gujarat Borosil Ltd.
Borosil Glass Works Ltd. (BGWL) ก่อตั้งขึ้นในปี 1962 โดยความร่วมมือกับบริษัท Corning Glass Works USA ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Pyrex แบรนด์เครื่องแก้วที่มีชื่อโด่งดังของโลก เพื่อทำการผลิตเครื่องแก้วโบโรซิลิเกต ต่อมาในปี 1988 บริษัท Corning ได้ขายหุ้นของตนให้กับบริษัทชาวอินเดียซึ่งกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BOROSIL มาจนถึงปัจจุบัน
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์เครื่องแก้วสำหรับห้องปฏิบัติการแล้ว ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจสินค้าของ BOROSIL ยังประกอบไปด้วย กลุ่มธุรกิจผลิตเครื่องครัวสำหรับใช้ในครัวเรือน เช่น เครื่องครัวสำหรับใช้กับตู้อบและ ไมโครเวฟ และกลุ่มธุรกิจผลิตแผ่นกระจกแก้วพิเศษสำหรับใช้กับ แผงโซลาร์เซลส์ (Solar Photovoltaic Cell) นอกจากนี้ ยังผลิตกระจกแผ่นสำหรับงานก่อสร้างอาคารและเฟอร์นิเจอร์ โดยใช้เทคโนโลยีพิเศษจากเมือง Pittsburg ประเทสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
Gujarat Borosil Ltd (GBL) เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศอินเดียที่ทำการผลิตแผ่นกระจกแก้วพิเศษที่มีปริมาณของเหล็กเจือปนต่ำมาก สำหรับใช้กับแผงโซลาร์เซลส์ (Solar Photovoltaic Cell) และยังผลิตกระจกแผ่นสำหรับงานก่อสร้างอาคารและเครื่องเรือน โดยใช้เทคโนโลยีพิเศษจากเมือง Pittsburg ประเทศสหรัฐอเมริกา
Gujarat Borosil ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 ปัจจุบันมีเตาหลอมผลิตแก้วที่มีกำลังการผลิตสูงถึง 230 ตันต่อวัน สามารถผลิตแผ่นแก้วที่มีความหนาตั้งแต่ 3 มม. ไปจนถึง 12 มม.
ผลิตภัณฑ์ของ BOROSIL ผลิตจากแก้ว Borosilicate ASTM E- 438 Type 1 Class A มีคุณสมบัติทนทานต่อน้ำ สารละลาย กรด กรดแก่ สารอินทรีย์ และสารละลายเกลือต่างๆ ได้อย่างดี
BOROSIL มีห้องแล็บสอบเทียบภายในที่ได้ตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025:2005 ได้รับการรับรองจาก NABL
เนื้อแก้วไม่แตกง่ายเมื่อต้องเจอกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ โดยเฉียบพลัน (sudden thermal shock fluctuation of 160˚C) และสามารถทนความร้อนต่อเนื่องได้ สูงถึง 500 ˚C
เครื่องแก้วทุกชิ้นต้องผ่านกระบวนพิเศษ คือ การอบอ่อน (Annealing Process) เพื่อขจัดความเครียดและความเค้นในเนื้อแก้วให้หมดไป ทำให้แก้วมีความคงทนแข็งแรงมากขึ้น
เครื่องแก้วทุกชนิดที่เป็น Volumetric glassware Class A และทางเรามี Batch certificate ให้ สำหรับลูกค้าของทางบริษัท ฟรี สำหรับกรณีลูกค้าต้องการผลิตภัณฑ์ที่มี Individual certificate รับรองจากแล็บ ISO 17025 สำหรับเครื่องแก้วแบบเป็นรายชิ้นนั้นๆโดยเฉพาะ ก็สามารถขอรับบริการได้เช่นกัน
สินค้าของ BOROSIL รับประกันคุณภาพทุกชิ้น ทุกชนิด หากพบว่ามีคุณภาพไม่ได้ตามสเป็คที่ระบุในแค๊ตตาล็อกหรือสอบเทียบไม่ผ่านบริษัทฯยินดีรับคืนหรือเปลี่ยนสินค้าชิ้นใหม่ให้ฟรี
เพื่อให้ท่านเห็นภาพชัดเจนว่า BOROSIL ทำอย่างไรให้เครื่องแก้ววัดปริมาตรมีความเที่ยงตรงมากที่สุดในโลก กรุณาอ่านรายละเอียดที่หัวข้อ “กระบวนการสอบเทียบ (Calibration Process)”
ผลิตภัณฑ์เครื่องแก้วของ BOROSIL ทุกชิ้นจะถูกส่งผ่านเข้าไปในอุโมงค์เตาอบเพื่อผ่านกระบวนการอบอ่อน (Annealing Process) โดยสายพานจะลำเลียงเครื่องแก้วผ่านช่วงอุณหภูมิความร้อนแต่ละระดับตามช่วงเวลาที่ถูกออกแบบและคำนวณมาเป็นอย่างดีแล้วว่าจะสามารถกำจัดความเครียดและความเค้นที่มีอยู่ในเครื่องแก้วให้หมดสิ้นไป นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นยังมีความหนาของเนื้อแก้วที่เรียบและสม่ำเสมอ เนื้อแก้วใส ปราศจากตำหนิและฟองอากาศ ส่งผลให้แก้วมีความคงทนแข็งแรงต่อทุกสภาพการใช้งาน
ด้วยกระบวนการอบอ่อน (Annealing Process) ที่ผ่านการออกแบบอย่างเคร่งครัด วัตดุดิบเนื้อแก้วที่ถูกคัดสรรอย่างดี และ ความหนาของเนื้อแก้วที่เรียบสม่ำเสมอ เครื่องแก้วของ BOROSIL นั้นสามารถทนต่อการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิอย่างเฉียบพลันได้โดยอุณหภูมิระหว่างสองจุดสามารถต่างกันได้ถึง 160 ˚C
ผลิตภัณฑ์ของ BOROSIL ผลิตจากแก้ว Borosilicate 3.3 Low expansion ASTM E-438 Type I Class A ซึ่งเป็นชนิดแก้วที่ทนกรด, สารละลายเกลือ และตัวทำละลายอินทรีย์ได้เป็นอย่างดี
กระบวนการสอบเทียบเครื่องแก้ววัดปริมาตรทุกชิ้นของ BOROSIL นั้นใช้ระบบคอมพิวเตอร์อัตโนมัติ ทำให้ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมีความเที่ยงตรงและแม่นยำสูง ปราศจากความผิดพลาดในการสอบเทียบที่อาจเกิดขึ้น จากการใช้แรงงานคน
1. ชั่งเครื่องแก้ววัดปริมาตรเปล่าบนเครื่องชั่ง เช่น Volumetric flask เพื่อเก็บค่าน้ำหนักภาชนะเปล่าก่อน
2. เครื่องจักรอัตโนมัติเติมน้ำกลั่นบริสุทธิ์ตามปริมาตรที่ต้องการเอาไว้ลงในเครื่องแก้วจากข้อ 1. โดยระบบได้มีการคิดคำนวณค่าพารามิเตอร์และสิ่งแวดล้อมในการทำงานในขณะนั้นที่อาจส่งผลต่อปริมาตรของน้ำกลั่นบริสุทธิ์ที่เติมลงไป เช่น ระดับอุณหภูมิและความชื้นในอากาศเอาไว้แล้ว
3. กล้องควบคุมเลเซอร์จะเล็งตรวจวัดจุดต่ำสุดของส่วนโค้งเว้า (Meniscus) และที่กงล้อหมุนจะมีหัวเจียระไนเนื้อแก้วซึ่งทำจากเพชรทำการหมุนควั่นเนื้อแก้วเพื่อสร้างขีดวัดปริมาตร (Scrolling mark) กระบวนการนี้จะทำให้ได้ขีดวัดปริมาตรที่มีความถูกต้องเที่ยงยำมากที่สุด และไม่มีโอกาสลบเลือน
4. สำหรับการสอบเทียบปริมาตร กระบอกตวง (cylinder), บิวเรตต์ (burette) และปิเปตต์ (pipet) จะต้องทำการสอบเทียบอย่างน้อย 2 จุดขึ้นไป
5. มีการคำนึงถึง Wet surface area factor ตลอดกระบวนการผลิต
เครื่องแก้วสำหรับบรรจุของเหลวหรือสารละลาย โดยจะมีการระบุสัญลักษณ์ TC หรือ In ไว้ที่ตัวเครื่องแก้ว เครื่องแก้วประเภทนี้ได้แก่ Volumetric flask และ Cylinder
เครื่องแก้วสำหรับการส่งผ่านสารหรือส่งถ่ายปริมตรสาร โดยจะมีการระบุสัญลักษณ์ TD หรือ Ex ไว้ที่ตัวเครื่องแก้ว เครื่องแก้วประเภทนี้ได้แก่ Burette และ Pipette
ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 จวบจนถึงปัจจุบัน นักเคมีนิยมเลือกใช้ภาชนะบรรจุ ที่ทำจากแก้วในการทำงานวิจัย เพราะคุณสมบัติหลักของแก้วที่มีลักษณะโปร่งใส สามารถเห็นสารที่บรรจุและปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นภายในได้อย่างชัดเจน แต่เนื่องจากการทดลองมักจะต้องมีการใช้อุณหภูมิที่หลากหลายและมีการผสมสารเคมีต่างๆ แก้วทั่วๆไปจึงไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพียงพอที่จะใช้กับงานวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการได้
การทดลองในห้องแล็บต้องการเครื่องแก้วที่สามารถขึ้นรูปทรงได้ตามต้องการ และสามารถที่จะทนต่ออุณหภูมิที่สูงมากๆ หรือการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิโดยเฉียบพลันได้โดยไม่เกิดการแตกร้าว หัก หรือเสียรูปทรง ทั้งยังสามารถรองรับกับการใช้งานในห้องแล็บได้หลากหลาย เช่น การล้างทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อ
กลุ่มเครื่องแก้ววัดปริมาตร แบรนด์ BOROSIL ที่ทางบริษัทฯ ทำสต็อคนั้นเป็นแบบ Batch Certificate ทั้งหมด แต่หากลูกค้าต้องการ Certificate ที่ออกรับรองเครื่องแก้วแบบรายชิ้น (Individual Certificate) ท่านสามารถแจ้งมาที่บริษัทฯ เพื่อทำการขอราคาและให้ทางบริษัทฯ สั่งนำเข้าพิเศษได้
Individual Certificate ของ BOROSIL นั้นจะออกโดยห้องปฏิบัติการ ISO 17025 ของ BOROSIL ซึ่งได้รับการรับรองจากสถาบัน NABL (National Accredited Board for Testing and Calibration laboratory) ที่ได้รับการยอมรับร่วม (Mututal Recognition Agreements, MRAs) ทั้งในระดับภูมิภาคกับองค์กรภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคว่าด้วยการรับรองระบบงานห้องปฏิบัติการ (the Asia Pacific Laboratory Accreditation Cooperation : APLAC) และในระดับสากลกับองค์กรระหว่างประเทศว่าด้วยการรับรองห้องปฏิบัติการ (International Laboratory Accreditation Cooperation : ILAC) จึงทำให้ Individual Certificate ที่ได้รับการรับรองจากแล็บ ISO17025 ของ BOROSIL นั้นได้รับการยอมรับจากแล็บ สอบเทียบมาตรฐาน ISO17025 ทั้งในประเทศที่อยู่ในทวีปเอเชีย อันรวมถึงประเทศไทยและทั้งในระดับสากล
เครื่องแก้ววัดปริมาตร ของแบรนด์ BOROSIL จะเป็นแบบสเกลสีชา ฝังลงไปในเนื้อแก้ว จึงทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสเกลลอกเลือนหาย แต่หากลูกค้าต้องการเป็นสเกลเซรามิคสีขาวหรือสีฟ้า
ทางบริษัทฯ สามารถสั่งทำพิเศษให้ได้เช่นกัน
สำหรับเครื่องแก้วทั่วไปที่ไม่ใช่กลุ่มเครื่องแก้ววัดปริมาตร สเกลและเครื่องหมายสัญลักษณ์จะเป็นแบบสีเซรามิคสีขาว
เครื่องแก้วที่ใช้สำหรับวัดปริมาตรของของเหลวที่ต้องการความแม่นยำสูง ได้แก่ Cylinder, Volumetric Flask, Burette, Pipette โดยมีลักษณะ คือ
สินค้าเครื่องแก้ว BOROSIL ทุกรายการผลิตจากแก้ว Borosilicate Type 3.3 ซึ่งจะมีคุณสมบัติตามรายละเอียดที่จะกล่าวถึงด้านล่างนี้ ยกเว้น สินค้าที่ระบุว่าเป็น S-Line จะผลิตจากแก้วชนิด Soda Lime
BOROSIL คือ แก้วบอโรซิลิเกตที่มีสภาพความเป็นด่างต่ำ ประเภท 3.3 (a low alkali borosilicate Type 3.3 glass) ซึ่งแทบจะไม่มีสารกลุ่มของแมกนีเซียม ปูนขาว และสังกะสีเจือปนอยู่เลย และปราศจากสารหนูและธาตุโลหะหนักอื่นๆ
เครื่องแก้ว BOROSIL มีสัมประสิทธิ์การขยายตัวเนื่องจากความร้อนอยู่ในระดับที่ต่ำ ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดความเครียดขึ้นในเนื้อแก้วเมื่อนำไปใช้กับสภาวะแวดล้อมที่อุณหภูมิสูงจึงน้อยกว่าแก้วชนิดอื่น สามารถใช้กับอุณหภูมิได้สูงถึง 500°C และทนต่อการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิอย่างเฉียบพลันได้กว้างถึง 160°C โดยที่แก้วไม่มีการแตกร้าวหรือได้รับผลกระทบใดต่อคุณสมบัติทั้งทางกายภาพและทางเคมีของตัวแก้วเลย เช่นคุณสามารถโยนแก้ว BOROSIL ที่อบออกจากตู้อบความร้อน 160°C ลงไปในน้ำที่อุณหภูมิ 0°C ได้โดยแก้วไม่เป็นอะไร
จุดความเครียด (Strain point) สำหรับแก้ว Borosilicate นั้นอยู่ที่ 515°C เป็นจุดอุณหภูมิสูงสุดที่ยังทำงานกับวัสดุนั้นได้โดยที่ไม่เกิดความเครียดขึ้นในเนื้อแก้ว เมื่อใดที่ได้รับความร้อนมากกว่า 500 องศาเซลเซียส ก็มีโอกาสที่จะเกิดความเครียดในวัสดุนั้นขณะที่ลดอุณหภูมิลงมาได้ ซึ่งจะทำให้แก้วเกิดความเสียสภาพไปได้
ผลิตภัณฑ์ของ BOROSIL ทุกตัวจะผ่านกระบวนการอบอ่อน (Annealed) ในอุโมงค์เตาอบ (Lehr oven) ภายใต้การควบคุมอุณหภูมิที่เคร่งครัด ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีความเค้นและความเครียดตกค้างอยู่ในผลิตภัณฑ์ เพราะจะถูกขจัดออกไปจนหมดสิ้น จึงทำให้แก้วไม่แตกง่ายและมีความคงทนสูงมาก
ผลิตภัณฑ์ BOROSIL จะมีความทนทานต่อการกัดกร่อนของน้ำ, สารที่เป็นกลาง, สารละลายกรด, กรดเข้มข้นและสารผสม, Chlorine, Bromine, Iodine และสารอินทรีย์ ได้เป็นอย่างดี แม้ต้องทนต่อระยะการเกิดปฏิกิริยาที่ยาวนาน หรือที่อุณหภูมิ การทำงานมากกว่า 100°C ซึ่งถือได้ว่าเป็นคุณสมบัติที่เหนือกว่าโลหะหรือวัสดุชนิดอื่นๆ
ข้อยกเว้น สารที่พึงระวัง ห้ามนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแก้วโบโรซิลิเกต เพราะจะทำปฏิกิริยาทางเคมีกับแก้ว แล้วจะทำให้แก้วเสื่อมสภาพได้ก็คือ Hydrofluoric acid, Phosphoric acid และ สารละลายด่างที่มีความเข้มข้นสูงมากที่อุณหภูมิร้อนจัด
การนึ่งฆ่าเชื้อ (Autoclave) มีใช้กันอย่างแพร่หลาย สำหรับการใช้ฆ่าเชื้อเครื่องมือ เครื่องแก้ว อุปกรณ์พลาสติก สารละลายและอาหารเลี้ยงเชื้อและลดความปนเปื้อนของมูลฝอยทางชีวภาพ การนึ่งฆ่าเชื้ออาจก่อให้เกินอันตรายต่อผู้ใช้งาน เนื่องจากความร้อน (heat) ไอน้ำ (steam) และความดัน (pressure) ผู้ใช้งานจึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก
หม้อนึ่งฆ่าเชื้อ ควรได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างปลอดภัย เพราะหม้อนึ่งฆ่าเชื้อแต่ละเครื่องจะมีลักษณะและการใช้งานเฉพาะตัว ดังนั้นจึงควรตรวจสอบและทำความเข้าใจคู่มือการใช้งานหม้อนึ่งฆ่าเชื้อทุกครั้งก่อนใช้งานครั้งแรกให้ดีเสียก่อน นอกจากนี้ควรปฏิบัติตามข้อปฏิบัติเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้งานที่หน่วยงานของท่านให้ละเอียด
ผลิตภัณฑ์สารหล่อลื่น 3 ประเภทที่นิยมใช้กับเครื่องแก้ว
a. Hydrocarbon grease : นิยมใช้กันมากที่สุด สามารถล้างออกได้ง่ายโดยตัวทำละลายที่ใช้ส่วนใหญ่ในห้องแล็บ เช่น Acetone
b. Silicon grease : นิยมใช้กับอุปกรณ์ที่ต้องใช้กับงานวิเคราะห์ที่ใช้อุณหภูมิสูงหรือความดันสูง สามารถล้างออกได้ด้วย Chloroform
c. Glycerin : นิยมที่ใช้กับงานที่มีปฏิกิริยาท่อที่มีการไหลในระยะยาว แล้วมีสารอินทรีย์และไขมันที่ไม่ละลายน้ำอยู่ด้วย สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำ
เครื่องแก้วที่สะอาดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับห้องปฏิบัติการที่ดี เพราะถึงแม้ห้องปฏิบัติการจะมีกระบวนการหรือขั้นตอนต่างๆที่กระทำอย่างเข้มงวด รัดกุมแล้วก็ยังสามารถทำให้เกิดข้อผิดพลาดของ ผลลัพธ์ของการทดลองได้ หากเครื่องแก้วที่ใช้งานนั้นสกปรก เครื่องแก้วต้องมีความสะอาดทั้งทางกายภาพและทางเคมี และในหลายๆกรณีก็ต้องปลอดเชื้อด้วย ตัวบ่งชี้ที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อดูความสะอาดของเครื่องแก้วก็คือรูปแบบการเปียกน้ำกลั่นบริเวณพื้นผิวเครื่องแก้ว นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเครื่องแก้วที่ใช้สำหรับวัดปริมาณของเหลว Grease และสารสกปรกต่างๆจะกันแก้วไม่ให้เปียกน้ำ ในทางกลับกัน ปริมาณตะกอนที่เกาะอยู่กับผนังเครื่องแก้วก็มีผลต่อการวัดปริมาณของเหลวหรือการส่งถ่ายของเหลว น้ำยาขัดทำความสะอาดและฟองน้ำแบบขัด ไม่ควรนำมาใช้ในการล้างเครื่องแก้วในห้องปฏิบัติการ เนื่องจากอาจทำให้ผิวเครื่องแก้วเสียหายได้ และความเสียหายของพื้นผิวดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อคุณสมบัติของเครื่องแก้วด้วย